วันศุกร์ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 15.50 น.
ศบค.เคลียร์‘ร้านอาหารนั่งดื่ม-ดนตรีสด’เปิดได้ ย้ำยังคง‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ไว้
12 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวัน กรณีข้อสงสัยของประชาชนที่อยากทราบการเปิดกิจการ/กิจกรรมในระยะผ่อนปรนที่ 4 ในส่วนของร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานบันเทิง สามารถทำการเปิดให้บริการได้หรือไม่ และสามารถมีการแสดงดนตรีสดได้หรือไม่ ว่า การเปิดกิจการ/กิจกรรม ในระยะที่ 4 กำหนดให้งดการเปิดผับ-บาร์-สถานบันเทิง แต่ในส่วนของร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร มีใบอนุญาตในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ใช่การจดทะเบียนเป็นสถานบันเทิงสามารถเปิดกิจการได้ แต่จะต้องมีการรักษามาตรการการป้องกันและควบคุมโรค ตามที่หน่วยงานราชการกำหนด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พรก.ฉุกเฉิน) ยังคงมีต่อไป ไม่ได้มีการยกเลิก เพียงแต่เป็นการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว ที่งดออกนอกเคหสถานในเวลาวิกาล และการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลในการควบคุมผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและจะต้องเข้ากักกันโรคในสถานที่ที่รัฐกำหนด (State Quarantine) ทั้งนี้การเดินทางภายในประเทศสามารถเดินทางได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดยังคงมีอำนาจในการกำหนดมาตรการควบคุมโรคของแต่ละจังหวัดอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร้านอาหารที่จดทะเบียน และมีการแสดงดนตรีสดสามารถทำได้หรือไม่ โฆษก ศบค. กล่าวว่า หากมีการจดทะเบียนว่าเป็นร้านอาหาร และมีการระบุว่าจะขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในส่วนของการแสดงดนตรีนั้น จะต้องดูว่าทำถูกระเบียบหรือไม่ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการจดแจ้งขึ้นทะเบียนกิจการ /กิจกรรม ตรงกับที่ตรวจหรือไม่
“หากมีการจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร แต่มีการจัดกิจกรรมคล้ายผับ บาร์ ก็จะโดนข้อกฎหมายอื่น หากมีการแอบเปิด เช่น แรกเริ่มเป็นร้านอาหารที่ไม่มีดนตรี แต่มีการนำดนตรีไปใส่ในภายหลัง ก็อาจจะผิดกฎหมายด้านอื่น ซึ่งจะดูกฎหมายอื่นประกอบด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
June 12, 2020 at 03:50PM
https://ift.tt/2XVBupa
ศบค.เคลียร์'ร้านอาหารนั่งดื่ม-ดนตรีสด'เปิดได้ ย้ำยังคง'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'ไว้ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/3cAAHOs
Bagikan Berita Ini